Broadband

ถ้าเมืองไทยมีพิพิธภัณฑ์ Internet!! ณ วันนี้ Analog MODEM คงเป็นอีกอุปกรณ์หนี่งที่ถูกจัดแสดงไว้อยู่ด้วย Analog MODEM เป็นอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลตามบ้านเพื่อเชื่อมต่อ Internet มาค่อนข้างนาน นับตั้งแต่เริ่มมีInternet ขึ้นมา เพราะมีราคาถูกและใช้กับคู่สายโทรศัพท์ที่มีอยู่แล้วเกือบทุกบ้านได้เลยแต่อนิจจังมีเกิดย่อมมีดับนั้นเป็นจริงกับทุกสรรพสิ่ง

รูปที่ 1 Broadband Frequency Band

เทคโนโลยี Internet เป็นเทคโนโลยีที่มีวิวัฒนาการไปอย่างรวดเร็วควบคู่ไปกับเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์ ที่ปัจจุบันมี CPU สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลถึง 4 Core ใช้กันแล้ว ความแรงนั้นอาจจะแรงกว่า Server ราคาหลายๆแสนที่มีขายกันอยู่เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา

สำหรับเทคโนโลยี Internet ก็แรงไช่เล่นเช่นกัน เทคโนโลยี Broadband เป็นเทคโนโลยีที่กลายเป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงตามบ้านในเขตเมืองแทน ซึ่งเรียกว่า Digital Subscriber Line (xDSL โดย x อาจเป็น V, S, A, H ซึ่งเป็นเทคโนโลยีย่อยของ DSL แต่ที่ใช้ตามบ้านคือ ADSL, Asymmetric Digital Subscriber Line) ซึ่งเทคโนโลยีที่ว่านี้สามารถใช้กับคู่สายโทรศัพท์ที่มีอยู่แล้วเช่นกัน ซึ่งทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ เช่น TOT หรือ TRUE จะมีการ Upgrade ระบบเครือข่ายโทรศัพท์ของตนเอง เพื่อที่จะสามารถใช้ย่านความถี่ (Frequency Band) ที่ว่างอยู่ของคู่สายโทรศัพท์สำหรับการส่งข้อมูล ซึ่งสัญญาณเสียงใช้ย่านความถี่ไม่เกิน 4 kHz ดังนั้นย่านความถี่ที่สูงกว่าย่านความถี่เสียง ( >4 kHz ) จึงถูกนำมาใช้ในการรับส่งข้อมูลของ Internet สำหรับการ Upload และ Download (โดยปกติในทาง Technical Term มักใช้คำว่าUplink/Downlink แต่เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นจึงใช้ Upload/Download แทน)โดยที่ ADSL การ Upload และ Download จะใช้จำนวนของช่องความถี่ไม่เท่ากัน (จึงใช้คำนำหน้าว่า Asymmetric) ซึ่งปกติ Download จะใช้จำนวนช่องความถี่มากกว่า Upload จึงทำให้ Bandwidth สำหรับการ Download จะสูงกว่า Upload เช่น 256k/128k คือ มี Bandwidth สำหรับ Download เป็น 256 kilo bit ต่อวินาที แต่ Upload มี Bandwidth เป็น 128 kilo bit ต่อวินาที ซึ่งลักษณะการแบ่งย่านความถี่ของคู่สายโทรศัพท์เป็นไปในลักษณะตามรูปที่ 1 ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ย่านความถี่ (Frequency Band) สำหรับ Voice, Downlink, Uplink ดังนั้นจึงเป็นเทคโนโลยีที่จัดอยู่ในกลุ่มของ Broadband Technology สำหรับการ Multiplexing ความถี่ของ Downlink/Uplink ออกมาจากสายโทรศัพท์และเชื่อมต่อเข้าไปยัง IP Network ซึ่งทางผู้ให้บริการจะติดตั้งอุปกรณ์ที่เรียกว่า Digital Subscriber Line Access Multiplexer (DSLAM) เพิ่มเข้าไปยังเครือข่ายของตน และทางฝั่งของผู้ใช้เองก็จำเป็นต้องเปลี่ยน Analog MODEM ของตน (และนำไปบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์) เป็น ADSL MODEM เพื่อที่จะ Modulation/Demodulation ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ไปเป็นย่านความถี่สำหรับ Uplink/Downlink ได้ (ดังแสดงตามรูปที่ 2)

รูปที่ 2 ADSL Connection Diagram

อาจมีคำถามตามมาว่าแล้วเราจะ Upgrade ตามไปทำไม ทำไมไม่ใช้ Analog MODEM ต่อไปล่ะ มีเหตุผลสำคัญที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้อยู่สองข้อที่ควร Upgrade เป็นอย่างยิ่ง ประการแรกคือความอิสระในการใช้งาน Voice และ Data คือสามารถใช้งานโทรศัพท์เพื่อการพูดคุยควบคู่ไปกับการใช้งาน Internet เนื่องจากมีการแบ่งย่านความถี่ของการรับส่งแยกออกจากกัน ซึ่งแต่เดิม Analog MODEM มีการใช้งานช่องความถี่ของ Voice ในการรับส่งข้อมูล จึงทำให้ขณะที่มีการใช้งาน Internet จึงไม่สามารถใช้โทรศัพท์พูดคุยได้ และในขณะที่ใช้โทรศัพท์ในการพูดคุย จะไม่สามารถใช้ Internet ได้ เพราะใช้ย่านความถี่เดียวกัน ซึ่งขณะใดขณะหนึ่งจำเป็นต้องใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น

เหตุผลประการที่สองคือ Bandwidth สูง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เหมาะสมกับการใช้งานในยุคของ Information เป็นอย่างยิ่ง เราจำเป็นต้องรับส่งข้อมูลมากขึ้น มี Internet Application ที่ต้องใช้งานมากขึ้น ซึ่งหมายถึงจำเป็นต้องมีการรับส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์และ Internet เพิ่มมากขึ้น และเนื่องจากข้อจำกัดของ Analog MODEM ด้วยเทคโนยีที่ใช้อยู่ถึงขีดจำกัดแล้ว ทำให้ Analog MODEM สามารถใช้กับอัตตราการรับส่งข้อมูลได้ไม่เกิน 56 kbps เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าการใช้งานจึงเป็นไปอย่างจำกัด ไม่ค่อยจะทันใจผู้ใช้สมัยนี้เท่าไหร่นัก แต่สำหรับเทคโนโลยี ADSL นั้นสามารถมีอัตตราการรับส่งข้อมูลสูงสุดได้ถึง 8.448 Mbps (ประมาณ 150 เท่าของความเร็วสูงสุดของ Analog MODEM) แต่ที่มีให้บริการในเมืองไทย จะอยู่ที่ประมาณ 2.048 Mbps

จากเหตุผลทั้งสองข้อดังกล่าวคงเพียงพอที่จะหันมาใช้ Broadband Internet นะครับ

About s0013254

I am just a crazy in technology guy.
This entry was posted in Computers and Internet. Bookmark the permalink.

Leave a comment